ปัจจุบัน การปรับแต่งเว็บไซต์ให้ได้อันดับดี ๆ บนหน้าค้นหาของ Google หรือที่เรียกว่า SEO ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญในด้านการตลาดออนไลน์ที่เจ้าของธุรกิจหลายคนให้ความสำคัญอย่างมาก โดยแต่ละเจ้าก็สรรหาเทคนิคในการดันให้ SEO ของตัวเองมีโอกาสติดอันดับมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่ถึงอย่างนั้น Google ก็ได้มีการปรับปรุงระบบอัลกอริทึมให้มีความฉลาดขึ้นและเท่าทันเทคนิคเหล่านี้อยู่เสมอ จนทำให้หลายเทคนิคที่เคยใช้ได้ผล ทุกวันนี้กลับไม่ได้ผลเสียแล้ว ดังนั้นวันนี้เราจึงรวบรวม 5 เทคนิคล้าสมัยสำหรับทำ SEO ในปี 2021 มาฝากกัน

1.ยัด “คีย์เวิร์ด” ซ้ำ ๆ
ถือเป็นเทคนิคสุดคลาสสิคสำหรับการทำ SEO ในอดีต เพียงแค่สร้างคอนเทนต์หรือบทความที่เต็มไปด้วยคีย์เวิร์ดที่ต้องการซ้ำ ๆ กันให้ได้มากที่สุด แม้จะเป็นบทความที่ไม่มีคุณภาพหรืออ่านแทบไม่รู้เรื่องก็สามารถติดอันดับ Google ได้ แต่ในปัจจุบัน Google ได้ปรับระบบการประเมินให้ก้าวหน้ามากขึ้น ทำให้เทคนิคนี้ตกกระป๋องไปเป็นที่เรียบร้อย ยิ่งใช้ คีย์เวิร์ด ซ้ำ ๆ กันจนผิดธรรมชาติมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งถูก Google ลดอันดับลงไปเท่านั้น

2.ใช้คีย์เวิร์ดสั้นที่มีความหมายกว้าง
ในอดีต การทำ SEO นิยมเลือกใช้คีย์เวิร์ดสั้น ๆ ที่มีความหมายกว้าง ไม่เฉพาะเจาะจง เพื่อหวังเข้าถึงผู้บริโภคจำนวนมาก เช่น หากเปิดเว็บไซต์ขายรองเท้า อาจใช้คีย์เวิร์ดง่าย ๆ สั้น ๆ ว่า “รองเท้า” ก็สามารถติดอันดับได้ แต่ปัจจุบัน Google ได้ปรับค่านิยมเป็นการใช้คีย์เวิร์ดยาว มีความหมายเฉพาะเจาะจงมากขึ้น ทำให้หากเราทำเว็บไซต์ขายรองเท้า ก็ต้องเลือกใช้คีย์เวิร์ดที่ยาวขึ้นและเจาะจงมากขึ้น เช่น รองเท้าวิ่งเพื่อสุขภาพ, รองเท้าแฟชั่นวัยรุ่น, รองเท้าวิ่งออกกำลังกาย เป็นต้น

3.ทำคอนเทนต์ซ้ำ
ในอดีต การทำคอนเทนต์หรือบทความ SEO ให้ได้ตัวเลขผู้เข้าชมเว็บไซต์มาก ๆ มักอาศัยการผลิตคอนเทนต์ซ้ำหรือก็อปคอนเทนต์จากแหล่งอื่นมีผู้เข้าชมมาก เพื่อเพิ่มจำนวนผู้เข้าเว็บไซต์ของตัวเอง แต่ในปัจจุบัน Google ให้ความสำคัญกับการผลิตคอนเทนต์ที่มีความเป็น Original ไม่ซ้ำกันเป็นอย่างมาก ดังนั้น หากใครที่ยังใช้เทคนิคนี้อยู่ นอกจากจะไม่ได้อันดับดี ๆ แล้วยังจะถูกลดอันดับง่าย ๆ อีกด้วย

4.แปะลิงค์เว็บไซต์เพื่อหวังเพิ่มจำนวนผู้เข้าชม
ในอดีตมักมีนักการตลาดออนไลน์ที่ใช้เทคนิคเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ด้วยการไปแปะลิงค์เว็บไซต์ของตัวเองตามช่อง Comment ในสื่อโซเชียลมีเดีย รวมถึงตามเว็บไซต์อื่น ๆ ใน Google เพื่อหวังผล Traffic ของเว็บไซต์ตัวเอง แต่ในปัจจุบัน Google ถือว่าเทคนิคแปะลิงค์นี้กลายเป็น Spam ไปแล้ว

5.ผลิตคอนเทนต์รองรับเฉพาะการใช้งานบนคอมพิวเตอร์
หากเป็นสมัยก่อน คอนเทนต์ SEO ส่วนใหญ่มักจะรองรับการเข้าใช้งานผ่านคอมพิวเตอร์ แต่ในปัจจุบัน Google ถือว่าผู้บริโภคกว่า 90% เข้าใช้งาน Google ผ่านโทรศัพท์มือถือและแท็ปเล็ต ดังนั้น การทำ SEO ที่ไม่ได้ทำ Mobile Optimization ต่อให้มีคุณภาพดีแค่ไหนก็จะไม่ได้รับการเหลียวแลจาก Google นั่นเอง