ประเภทของ SEO Keyword Research เลือกให้เหมาะสมกับธุรกิจของคุณได้อย่างไร


08/2021
SEO

Keyword ที่ดีจะช่วยเพิ่มยอดขายให้มากขึ้นตามไปด้วย เพราะในความเป็นจริงหากบทความมีคีย์เวิร์ดที่ตอบโจทย์การค้นหาของกลุ่มลูกค้าและผู้ใช้งานในปริมาณที่มากพอ ก็จะยิ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการทำงานของ Keyword Research ที่ส่งผลดีต่อสินค้าและเว็บไซต์ ดังนั้นการทำ Keyword Research จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยเพิ่มโอกาสการเข้าถึงผู้บริโภคออนไลน์มากขึ้น ซึ่งมีประเภทของ Keyword Research ที่น่าสนใจให้เลือกใช้ให้เหมาะกับธุรกิจของคุณดังนี้

Keyword Research คือ เครื่องมือการตลาดดิจิทัลที่เราใช้ในการค้นหา คำ หรือ วลีที่เป็นคีย์เวิร์ดซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจของเรา ซึ่งคำเหล่านี้จะช่วยบทความในการทำ SEO เพื่อธุรกิจหรือเว็บไซต์ของเราถูกค้นพบในหน้าแรก ๆ ของ Google และเราก็จะนำคำ เหล่านี้มาปรับใช้ในการทำ SEO ซึ่งปัจจัยในการเลือกใช้ Keyword ส่วนใหญ่นิยมเลือกจาก Search Volume หรือจำนวนการค้นหาของ Keyword ยิ่งคำที่เราเลือกใช้ได้รับความนิยมสูงก็แสดงว่ามีผู้ใช้ค้นหาเป็นจำนวนมาก จึงเป็นโอกาสดีที่เราจะที่จะเชื่อมโยงกลุ่มผู้ค้นหาใหม่ ๆ เข้ามายังเว็บไซต์ได้เพิ่มมากขึ้นด้วย ข้อสำคัญอีกประการหนึ่งคือความเชื่อมโยงอย่างมีนัยสัมพันธ์ของ Keyword กับเนื้อหาของบทความที่ส่งเสริมการตลาดบนหน้าเว็บไซต์ที่แนะนำธุรกิจหรือผลิตภัณฑ์ให้เป็นที่รู้จักได้อย่างเป็นธรรมชาติ

โดยประเภทของ Keyword Research ที่ได้รับความนิยมสูงมีดังนี้

ประเภทที่ 1 Google Keyword Planner เป็นเครื่องมือในการค้นหาที่น่าเชื่อถือที่สุดประเภทหนึ่ง ด้วยความความสามารถโดยตรงในการค้นหา Keyword และ Search Volume ที่ Google ได้พัฒนาขึ้น ขั้นตอนการใช้งานก็ไม่ยุ่งยาก สามารถทำได้โดยเข้าไปที่ https://ads.google.com/home เข้าGmailแล้วกดเข้าไปหน้าเพจมองหาเมนูด้านบน กด Tools & Settings แล้วไปที่ Keyword Planner หากต้องการหาจำนวน Keyword เพิ่ม ให้เลือก Discover new keywords แต่หากต้องการหา Search Volume ให้เลือก Get search volume and forecasts

สำหรับเมนู Discover new keywords เป็นฟังก์ชันที่ช่วยให้เราค้นหาโดยพิมพ์คีย์เวิร์ดที่ต้องการลงไป โดยจำกัดสูงสุดที่ 10 รายการ​ แล้วกดดูผลลัพธ์ ส่วน Search Volume จะช่วยให้เราค้นหา Keyword ซึ่งเป็นที่นิยมในสถานที่ต่าง ๆ ในแต่ละช่วงเวลาได้ หากได้สิ่งที่ต้องการแล้ว สามารถดาวน์โหลดมาใช้งานเป็นไฟล์ excel ได้อีกด้วย ซึ่งเหมาะสำหรับธุรกิจที่เพิ่งเริ่มต้นทำ SEO และต้องการค้นหาไอเดีย Keyword เพื่อนำไปใช้

ประเภทที่ 2 Ahrefs เป็นเครื่องมือหนึ่งในการทำ SEO ที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน ด้วยความสามารถในระบบการวิเคราะห์ Keyword ของคู่แข่ง แต่ก็มีข้อจำกัดตรงที่ต้องเสียเงินเป็นสมาชิกก่อน จึงจะได้รับสิทธิ์ในการเข้าดูข้อมูลใช้งานโดยเข้าไปที่ https://ahrefs.com/ แล้วทำตามฟังก์ชันการค้นหาโดยใส่ชื่อเว็บไซต์ที่เราต้องการรู้ว่าติดอันดับด้วย Keyword อะไรอยู่บ้างแล้วกด Organic keywords ก็จะแสดงผลและมีให้เลือกว่า จะดาวน์โหลดทั้งหมดหรือเพียง 500 ถึง 1,000 คำแรก เครื่องมือประเภทนี้เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการสำรวจตลาดและความนิยมของสินค้า โดยเปรียบเทียบกับข้อมูลของคู่แข่งมาประกอบการพัฒนาเว็บไซต์ให้มีความน่าสนใจและเข้าถึงได้มากขึ้น

ส่วนประเภทที่ 3 Google Search Console เป็นอีกฟีเจอร์หนึ่งที่ Google ได้พัฒนาขึ้นเพื่อใช้รวบรวมข้อมูลพื้นฐานในการทำเว็บไซต์และตรวจสอบคอนเทนต์แบบ SEO มีลูกเล่นมากมาย แต่จุดเด่นคือสามารถตรวจสอบได้ว่ามีผู้เข้าชมเว็บไซต์โดยค้นหาจาก Keyword ใดบ้าง ทั้งยังแสดงอันดับของเว็บไซต์ที่สัมพันธ์กับแต่ละคีย์เวิร์ด เข้าไปที่ https://search.google.com/search-console/about กด Start now เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนเริ่มต้น เมื่อ Login ด้วย gmail แล้ว ระบบจะแสดงข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนการ click เข้าชมเว็บไซต์ แสดงจำนวนครั้งที่เว็บไซต์ปรากฏบน Google พร้อมด้วยค่าเฉลี่ยในการจัดอันดับเว็บไซต์ และจำนวนค่าเฉลี่ยของคนที่เห็นและกดคลิกเข้าชมเว็บไซต์์ เป็นต้น เหมาะสำหรับทุกเว็บไซต์เนื่องจากสามารถตรวจสอบค่าสถิติต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง และสามารถนำไปปรับปรุงเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น

เครื่องมือเหล่านี้มีความน่าเชื่อถือและมีประสิทธิภาพเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับคุณว่าจะเลือกใช้ Keyword Research Tool ประเภทใดให้เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ

Related posts